ดานัง (Da Nang) เมืองท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนามที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวไทย เนื่องด้วยดานังนั้นมีครบทั้งธรรมชาติที่งดงาม วัฒนธรรมที่ลึกซึ้ง และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าตื่นตาตื่นใจ ไม่ว่าคุณจะชอบผจญภัย ชิลล์ริมทะเล หรือถ่ายรูปสวยๆ ดานังสามารถตอบโจทย์ทุกไลท์สไตล์แน่นอน หากคุณกำลังวางแผนเที่ยวดานัง นี่คือ 10 สถานที่ท่องเที่ยวในดานังที่คุณต้องไปเยือน ที่เราทาง daylightworldtravel บริษัทท่องเที่ยวชั้นนำนั้นจะมารีวิว และอัพเดทล่าสุดกับที่เที่ยวในเวียดนามปี 2025 และตอบคำถามที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น เที่ยวเดือนไหนดี ,ต้องใช้งบเท่าไหร่ แน่นอนว่าหากคุณนั้นไปเที่ยวด้วยตัวเองก็สามารถไปได้แน่นอน รับรองว่าประทับใจจนต้องอยากกลับไปอีก
สนใจท่องเที่ยวกับ Daylight World Travel click 🔥
สอบถามรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมหรือติดตามDaylightได้ทุกช่องทาง
Facebook | Daylight World Travel 👉🏼 https://shorturl.asia/hz4d1
Instagram | @daylight.worldtravel👉🏼 https://shorturl.asia/zFCna
Line Official Account | @daylightworld 👉🏼 https://lin.ee/52NXqOq
1. บาน่าฮิลส์ (Ba Na Hills) สัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวในดินแดนแห่งความฝัน
บาน่าฮิลส์ เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของดานัง ที่นักท่องเที่ยวทุกคนต้องไปเยือน ไฮไลต์ของที่นี่คือ สะพานมือทองคำ (Golden Bridge) ที่โด่งดังไปทั่วโลก สะพานที่เหมือนถูกประคองโดยมือยักษ์ยื่นออกมาจากภูเขา ที่นี่คุณจะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่งดงามบนยอดเขา และเดินเล่นใน หมู่บ้านฝรั่งเศส ที่เหมือนหลุดมาจากยุโรป
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่รวมความงดงามของธรรมชาติ ความโรแมนติกของสถาปัตยกรรม และกิจกรรมสนุก ๆ ที่เหมาะกับทุกคนในครอบครัว “บาน่าฮิลส์” (Ba Na Hills) ในเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด สถานที่แห่งนี้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก เพราะมีเสน่ห์เฉพาะตัวและเต็มไปด้วยสิ่งที่รอให้คุณมาค้นพบ
ทำไมคุณต้องไปเยือนบาน่าฮิลส์สักครั้งในชีวิต
บาน่าฮิลส์ไม่ใช่แค่สถานที่ท่องเที่ยวธรรมดา แต่เป็นดินแดนแห่งจินตนาการที่ผสมผสานธรรมชาติ ศิลปะ และความสนุกสนานไว้อย่างลงตัว ทุกมุมที่นี่เต็มไปด้วยความประทับใจที่รอให้คุณไปสัมผัสด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม หรือประสบการณ์การเดินทางที่ไม่เหมือนใคร
การเดินทางไปบาน่าฮิลส์
จากเมืองดานัง นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปบาน่าฮิลส์ได้สะดวกด้วยรถแท็กซี่หรือบริการรถส่วนตัว ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีเท่านั้น หากคุณมาเป็นกลุ่ม แนะนำให้จองบริการรถพร้อมคนขับเพื่อความสะดวกสบาย
- กิจกรรมแนะนำ นั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลกและชมวิวป่าเขาแบบ 360 องศา
- เคล็ดลับ ไปช่วงเช้าหรือเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนและได้แสงถ่ายรูปที่สวยงาม
2. สะพานมังกร (Dragon Bridge) แลนด์มาร์กสุดอลังการแห่งเวียดนาม
หากพูดถึงเมืองดานัง (Da Nang) ประเทศเวียดนาม สถานที่ที่หลายคนคิดถึงเป็นอันดับแรกคงหนีไม่พ้น “สะพานมังกร” หรือ Dragon Bridge ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองนี้ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่น ความสวยงามที่สะกดทุกสายตา และกิจกรรมแสง สี เสียงที่ไม่เหมือนใคร สะพานมังกรจึงกลายเป็นจุดท่องเที่ยวที่คุณต้องไม่พลาดเมื่อมาเยือนดานัง
สะพานมังกรเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของดานัง โดยสะพานนี้ถูกออกแบบให้มีรูปทรงเหมือนมังกรที่ทอดตัวข้ามแม่น้ำฮัน (Han River) ที่พิเศษคือทุกคืนวันเสาร์และอาทิตย์ มังกรจะพ่นไฟและพ่นน้ำ สร้างบรรยากาศที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับนักท่องเที่ยว
รู้จักสะพานมังกร (Dragon Bridge)
สะพานมังกร (Dragon Bridge) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 2013 เพื่อเฉลิมฉลองการครบรอบ 38 ปีของการปลดปล่อยเมืองดานัง ความยาวของสะพานอยู่ที่ 666 เมตร และมีความกว้าง 37.5 เมตร เชื่อมระหว่างสองฝั่งแม่น้ำฮาน (Han River) โดยมีลักษณะพิเศษคือการออกแบบที่สะท้อนถึงมังกรจีน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง โชคลาภ และความแข็งแกร่ง ความพิเศษที่ทำให้สะพานมังกรแห่งนี้โดดเด่นไม่เหมือนสะพานไหน ๆ คือมังกรสีทองขนาดใหญ่ที่ทอดตัวยาวข้ามสะพาน พร้อมกับศีรษะมังกรที่สามารถพ่นไฟและพ่นน้ำได้จริงในยามค่ำคืน
ทำไมต้องไปเยือนสะพานมังกรสักครั้งในชีวิต
สะพานมังกรไม่ได้เป็นเพียงสะพานธรรมดา แต่เป็นแลนด์มาร์กที่สะท้อนถึงวัฒนธรรม ความเจริญรุ่งเรือง และความภาคภูมิใจของชาวเวียดนาม การได้มาเยือนสะพานแห่งนี้เป็นมากกว่าการเที่ยวชม เพราะคุณจะได้สัมผัสทั้งความงดงามของสถาปัตยกรรม ความสนุกจากการแสดง และเสน่ห์ของเมืองดานังในยามค่ำคืน
วิธีเดินทางไปสะพานมังกร
สะพานมังกรตั้งอยู่ในใจกลางเมืองดานัง การเดินทางมาที่นี่สะดวกสบายมาก สามารถเลือกใช้บริการแท็กซี่, Grab หรือเช่ามอเตอร์ไซค์ก็ได้ หากพักในตัวเมือง ใช้เวลาเดินทางเพียง 10-15 นาทีเท่านั้น
- กิจกรรมแนะนำ ชมการแสดงพ่นไฟเวลา 21.00 น.
- เคล็ดลับ หามุมถ่ายรูปตอนกลางคืนเพื่อเก็บภาพสะพานที่ประดับไฟหลากสี
3. หาดหมีเคว (My Khe Beach) สัมผัสชายหาดที่สวยที่สุดในเวียดนาม
หากคุณกำลังมองหาหาดทรายขาว น้ำทะเลใส และบรรยากาศที่เงียบสงบเหมาะสำหรับการพักผ่อน “หาดหมีเคว” (My Khe Beach) ในเมืองดานัง (Da Nang) ประเทศเวียดนาม คือจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด! ชายหาดแห่งนี้ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในหาดที่สวยที่สุดในเอเชียจาก Forbes ด้วยความงดงามตามธรรมชาติและกิจกรรมมากมายที่พร้อมมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับนักท่องเที่ยว
หาดหมีเคว (My Khe Beach) ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองดานังเพียง 6 กิโลเมตร เป็นชายหาดที่มีความยาวประมาณ 10 กิโลเมตรและมีทรายขาวละเอียดตัดกับน้ำทะเลสีฟ้าคราม บริเวณนี้เป็นที่นิยมสำหรับทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น เนื่องจากมีบรรยากาศเงียบสงบ แต่ก็ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมให้ทำมากมาย ตั้งแต่นอนอาบแดด เล่นน้ำ ไปจนถึงกีฬาทางน้ำสุดมันส์
ทำไมต้องมาเที่ยวหาดหมีเควสักครั้งในชีวิต
หาดหมีเควไม่ได้เป็นเพียงชายหาดธรรมดา แต่เป็นสถานที่ที่รวมทุกความงามของธรรมชาติและกิจกรรมที่หลากหลายไว้ในที่เดียว ไม่ว่าคุณจะเป็นสายชิลที่ต้องการพักผ่อนริมทะเล หรือสายลุยที่ต้องการสนุกกับกีฬาทางน้ำ หาดแห่งนี้ก็สามารถตอบโจทย์ได้ครบ
วิธีเดินทางไปหาดหมีเคว จากสนามบินดานัง (Da Nang International Airport)
- รถแท็กซี่: ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ค่ารถประมาณ 100,000 – 150,000 ดองเวียดนาม
- Grab หรือเช่ามอเตอร์ไซค์: หากคุณต้องการเดินทางแบบอิสระ สามารถเรียก Grab หรือเช่ามอเตอร์ไซค์ในราคาเริ่มต้นเพียง 150,000 ดองต่อวัน
4. ภูเขาหินอ่อน (Marble Mountains) สำรวจขุนเขาศักดิ์สิทธิ์แห่งเวียดนาม
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวในดานังที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ธรรมชาติ และความศักดิ์สิทธิ์ “ภูเขาหินอ่อน” (Marble Mountains) หรือที่ชาวเวียดนามเรียกว่า Ngu Hanh Son คือสถานที่ที่ไม่ควรพลาด! ภูเขาหินอ่อนเป็นกลุ่มภูเขาหินปูนที่มีถ้ำ วัด และทิวทัศน์ที่งดงาม พร้อมให้คุณได้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและวัฒนธรรมเวียดนามไปพร้อมกัน
ภูเขาหินอ่อน (Marble Mountains) ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของเมืองดานัง ห่างจากตัวเมืองเพียง 8 กิโลเมตร ที่นี่เป็นกลุ่มภูเขาหินปูนจำนวน 5 ลูกที่ตั้งอยู่เรียงกัน โดยแต่ละลูกมีชื่อเป็นตัวแทนของธาตุทั้ง 5 ตามปรัชญาจีน ได้แก่ Thuy Son (ธาตุน้ำ) ,Moc Son (ธาตุไม้) ,Hoa Son (ธาตุไฟ) ,Kim Son (ธาตุโลหะ) และTho Son (ธาตุดิน) ภูเขาหินอ่อนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีวัดพุทธและศาลเจ้าโบราณ รวมถึงถ้ำลึกลับที่ซ่อนอยู่ภายใน นักท่องเที่ยวที่มาเยือนสามารถเดินขึ้นบันไดไปยังจุดชมวิวเพื่อชมทัศนียภาพของเมืองดานังและทะเลจีนใต้ที่สวยงาม
ทำไมต้องไปเที่ยวภูเขาหินอ่อนสักครั้งในชีวิต
- ธรรมชาติและวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม – จุดชมวิวบนยอดเขาให้คุณเห็นทิวทัศน์ที่งดงามของเมืองดานังและทะเลจีนใต้
- ความศักดิ์สิทธิ์และประวัติศาสตร์ – เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวัดพุทธและถ้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน
- ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร – คุณจะได้สัมผัสทั้งการผจญภัย ปีนเขา ชมถ้ำ และเรียนรู้วัฒนธรรมเวียดนามในที่เดียว
วิธีเดินทางไปภูเขาหินอ่อน
จากเมืองดานัง
- รถแท็กซี่/Grab: ใช้เวลาประมาณ 15-20 นาที ค่ารถประมาณ 100,000 – 150,000 ดองเวียดนาม
- เช่ามอเตอร์ไซค์: ราคาเริ่มต้น 150,000 – 200,000 ดองต่อวัน เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวกสบาย
จากฮอยอัน
- รถบัสท้องถิ่น: ค่าโดยสารประมาณ 20,000 – 30,000 ดอง ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที
- รถแท็กซี่: ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ค่ารถประมาณ 250,000 – 350,000 ดอง
5. สะพานแห่งความรัก (Love Bridge) จุดเช็กอินสุดโรแมนติกริมแม่น้ำฮาน
หากคุณกำลังมองหาสถานที่โรแมนติกในเมืองดานัง (Da Nang) ประเทศเวียดนาม “สะพานแห่งความรัก” (Love Bridge) คือลิสต์ที่คุณต้องไม่พลาด! ที่นี่เป็นจุดเช็กอินสุดหวานที่เต็มไปด้วยบรรยากาศโรแมนติก เหมาะสำหรับคู่รักที่ต้องการเก็บความทรงจำดี ๆ และนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสวิวสวย ๆ ของแม่น้ำฮานและสะพานมังกรในยามค่ำคืน
สะพานแห่งความรัก (Love Bridge) คืออะไร
สะพานแห่งความรักตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำฮาน (Han River) ใกล้กับ สะพานมังกร (Dragon Bridge) ซึ่งเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองดานัง สะพานแห่งนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากสะพานกุญแจแห่งความรักในหลาย ๆ เมืองทั่วโลก เช่น Pont des Arts ที่ปารีส หรือ N Seoul Tower ที่เกาหลีใต้ ไฮไลต์ของสะพานนี้คือโคมไฟรูปหัวใจสีแดงที่เรียงรายอยู่สองฝั่ง ทำให้บรรยากาศยิ่งโรแมนติก โดยเฉพาะในช่วงค่ำที่สะพานสว่างไสวจากแสงไฟที่สะท้อนลงแม่น้ำ นักท่องเที่ยวสามารถคล้องกุญแจแห่งรักกับราวสะพานเพื่อเป็นสัญลักษณ์ของความรักนิรันดร์
ทำไมต้องไปเที่ยวสะพานแห่งความรักสักครั้งในชีวิต
- เป็นจุดเช็กอินที่โรแมนติกที่สุดในดานัง – เหมาะสำหรับคู่รักและผู้ที่ชอบถ่ายรูป
- ชมวิวสะพานมังกรและแม่น้ำฮานแบบพาโนรามา
- สัมผัสบรรยากาศกลางคืนสุดโรแมนติกของเมืองดานัง
- ใกล้แหล่งท่องเที่ยวสำคัญและเดินทางสะดวก
เคล็ดลับเที่ยวสะพานแห่งความรักให้ฟินสุด ๆ
❤️ พกกุญแจมาคล้องเอง – ถ้าคุณอยากได้ดีไซน์พิเศษ หรือสลักชื่อไว้ล่วงหน้า
📷 เตรียมกล้องให้พร้อม – เพราะที่นี่มีมุมถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย
🌅 มาเที่ยวช่วงเย็นหรือค่ำ – เพื่อชมวิวที่สวยที่สุดและบรรยากาศสุดโรแมนติก
🍽 ลองอาหารทะเลใกล้สะพาน – ร้านอาหารทะเลแถวนี้สดใหม่และรสชาติอร่อย
วิธีเดินทางไปสะพานแห่งความรัก
จากสนามบินดานัง
🚖 รถแท็กซี่หรือ Grab – ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่ารถประมาณ 100,000 – 150,000 ดองเวียดนาม
🏍️ เช่ามอเตอร์ไซค์ – ค่าเช่าเริ่มต้นที่ 150,000 ดองต่อวัน เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการอิสระ
จากเมืองฮอยอัน
🚌 รถบัสท้องถิ่น – ค่าโดยสารประมาณ 20,000 – 30,000 ดอง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
🚗 รถแท็กซี่ – ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่ารถประมาณ 250,000 – 350,000 ดอง
6. เมืองโบราณฮอยอัน (Hoi An Ancient Town) สัมผัสเสน่ห์แห่งอดีต เมืองมรดกโลกสุดคลาสสิกของเวียดนาม
หากคุณกำลังมองหาจุดหมายปลายทางที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของประวัติศาสตร์ สถาปัตยกรรมเก่าแก่ และบรรยากาศโรแมนติก “เมืองโบราณฮอยอัน” (Hoi An Ancient Town) คือที่ที่คุณต้องไปเยือนสักครั้ง! เมืองมรดกโลกแห่งนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนโดย UNESCO และเป็นหนึ่งในจุดหมายยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยตรอกซอกซอยที่ปูด้วยหินเก่าแก่ บ้านไม้โบราณสีเหลืองสดใส และโคมไฟหลากสีที่ประดับประดาให้เมืองนี้เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่ไม่มีวันเสื่อมคลาย
ทำความรู้จักกับเมืองโบราณฮอยอัน
ฮอยอัน (Hoi An) เป็นเมืองเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดกว๋างนาม (Quang Nam) ทางตอนกลางของเวียดนาม ห่างจากเมืองดานังประมาณ 30 กิโลเมตร ในอดีตเคยเป็นเมืองท่าการค้าที่สำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในศตวรรษที่ 15-19 ทำให้วัฒนธรรมที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างเวียดนาม จีน และญี่ปุ่น
สิ่งที่ทำให้เมืองโบราณฮอยอันมีเสน่ห์ไม่เหมือนใครคือ สถาปัตยกรรมโบราณที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ ถนนคนเดินที่เงียบสงบ ร้านค้าท้องถิ่น และอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย นอกจากนี้ยังมีเทศกาลโคมไฟที่สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกให้กับเมืองแห่งนี้
ทำไมต้องไปเที่ยวเมืองโบราณฮอยอันสักครั้งในชีวิต
- เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และประวัติศาสตร์
- สัมผัสวัฒนธรรมและอาหารเวียดนามแท้ ๆ
- บรรยากาศโรแมนติก เหมาะสำหรับคู่รักและนักเดินทาง
- ถ่ายรูปสวยทุกมุม และได้ประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร
เคล็ดลับเที่ยวฮอยอันให้สนุกสุด ๆ
- ใส่เสื้อผ้าสบาย ๆ และรองเท้าที่เหมาะกับการเดิน – เมืองนี้เหมาะสำหรับการเดินเที่ยว ดังนั้นควรใส่รองเท้าสบาย ๆ
- ลองอาหารท้องถิ่นให้ครบทุกเมนู – อาหารของฮอยอันมีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนที่ไหน
- เตรียมกล้องให้พร้อม – เพราะทุกมุมของเมืองนี้คือจุดถ่ายรูปที่สวยงาม
- พักในโฮมสเตย์หรือโรงแรมสไตล์โคโลเนียล – เพื่อสัมผัสบรรยากาศของเมืองเก่าอย่างแท้จริง
วิธีเดินทางไปเมืองโบราณฮอยอัน
จากเมืองดานัง
🚌 รถบัสท้องถิ่น – ค่าโดยสารประมาณ 20,000 – 30,000 ดอง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
🚗 รถแท็กซี่หรือ Grab – ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที ค่ารถประมาณ 250,000 – 350,000 ดอง
🏍️ เช่ามอเตอร์ไซค์ – ค่าเช่าราว 150,000 – 200,000 ดองต่อวัน เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการสำรวจเมืองอย่างอิสระ
7. วัดหลินห์อึ๋ง (Linh Ung Pagoda) สักการะพระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่ พร้อมชมวิวทะเลสุดอลังการ
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์ ผสมผสานกับวิวธรรมชาติอันงดงาม “วัดหลินห์อึ๋ง” (Linh Ung Pagoda) ในเมืองดานัง (Da Nang) ประเทศเวียดนาม คือสถานที่ที่คุณต้องไม่พลาด! วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของ พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม และตั้งอยู่บน คาบสมุทรเซินตร่า (Son Tra Peninsula) ทำให้สามารถมองเห็นวิวทะเลจีนใต้และตัวเมืองดานังแบบพาโนรามาได้อย่างสวยงาม
รู้จักวัดหลินห์อึ๋งให้มากขึ้น
วัดหลินห์อึ๋ง (Linh Ung Pagoda, Chùa Linh Ứng) เป็นหนึ่งในวัดสำคัญของเวียดนามที่ตั้งอยู่ในเมืองดานัง วัดแห่งนี้สร้างขึ้นบน คาบสมุทรเซินตร่า (Son Tra Peninsula) ซึ่งเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่เงียบสงบและงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม ไฮไลต์สำคัญของวัดนี้คือ พระโพธิสัตว์กวนอิมสีขาวที่มีความสูงถึง 67 เมตร ซึ่งถือเป็นองค์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศของความศักดิ์สิทธิ์และเงียบสงบ พร้อมทั้งสามารถชมวิวเมืองดานัง ทะเล และภูเขาที่งดงามได้ในมุมกว้าง
ทำไมต้องไปเที่ยววัดหลินห์อึ๋งสักครั้งในชีวิต
- ชมพระโพธิสัตว์กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม
- สัมผัสวิวทะเลและเมืองดานังจากมุมสูง
- เรียนรู้วัฒนธรรมและศิลปะพุทธศาสนาเวียดนาม
- ดื่มด่ำกับบรรยากาศสงบและธรรมชาติที่สวยงาม
เคล็ดลับเที่ยววัดหลินห์อึ๋งให้ประทับใจ
- แต่งกายสุภาพ – เนื่องจากเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ควรสวมเสื้อผ้าที่สุภาพ ไม่เปิดไหล่หรือสั้นเกินไป
- พกน้ำดื่มและครีมกันแดด – อากาศที่คาบสมุทรเซินตร่าอาจร้อน ควรเตรียมตัวให้พร้อม
- มาแต่เช้าหรือเย็นเพื่อหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวเยอะ
- เตรียมกล้องให้พร้อม – เพราะทุกมุมของวัดแห่งนี้เต็มไปด้วยความงดงามและศิลปะ
วิธีเดินทางไปวัดหลินห์อึ๋ง
จากเมืองดานัง
🚖 แท็กซี่หรือ Grab – ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ค่ารถประมาณ 150,000 – 250,000 ดองเวียดนาม
🏍 เช่ามอเตอร์ไซค์ – ค่าเช่าเริ่มต้นที่ 150,000 – 200,000 ดองต่อวัน เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการขับรถชมวิวไปตามคาบสมุทรเซินตร่า
จากฮอยอัน
🚌 รถบัสท้องถิ่น – ค่าโดยสารประมาณ 30,000 – 50,000 ดอง ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
🚗 รถแท็กซี่หรือ Grab – ใช้เวลาประมาณ 50 นาที ค่ารถประมาณ 400,000 – 500,000 ดอง
8. พิพิธภัณฑ์จาม (Cham Museum) สำรวจอารยธรรมโบราณแห่งอาณาจักรจามปา
หากคุณเป็นคนที่หลงใหลในประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรมโบราณ “พิพิธภัณฑ์จาม” (Cham Museum) ในเมืองดานัง (Da Nang) ประเทศเวียดนาม คือสถานที่ที่คุณไม่ควรพลาด! พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เป็นแหล่งรวมโบราณวัตถุและประติมากรรมที่สำคัญของ อาณาจักรจามปา (Champa Kingdom) ซึ่งเคยรุ่งเรืองในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างศตวรรษที่ 2-19
พิพิธภัณฑ์จามเป็น พิพิธภัณฑ์แห่งแรกและใหญ่ที่สุดในโลกที่จัดแสดงศิลปะจามปา ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์อันน่าทึ่ง รอให้คุณมาสำรวจและเรียนรู้ไปพร้อมกัน
รู้จักพิพิธภัณฑ์จามให้มากยิ่งขึ้น
พิพิธภัณฑ์จาม หรือ Cham Sculpture Museum ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1915 โดยชาวฝรั่งเศสในช่วงที่เวียดนามเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดแสดงโบราณวัตถุของอาณาจักรจามปา ซึ่งมีอิทธิพลจากศาสนาฮินดูและพุทธศาสนา
ตัวอาคารของพิพิธภัณฑ์เป็นการผสมผสานระหว่าง สถาปัตยกรรมแบบโกธิกของฝรั่งเศสและศิลปะจาม ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุกว่า 300 ชิ้น ที่ขุดค้นพบจากเมืองโบราณของอาณาจักรจามปาทั่วเวียดนาม เช่น หมีเซิน (My Son), ดงซือง (Dong Duong), และจาเกียว (Tra Kieu)
ทำไมต้องไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์จามสักครั้งในชีวิต
- เป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมศิลปะจามปาที่ใหญ่ที่สุดในโลก
- เรียนรู้ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- สัมผัสสถาปัตยกรรมโบราณและศิลปะที่หาชมได้ยาก
- ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก และใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ
เคล็ดลับเที่ยวพิพิธภัณฑ์จามให้คุ้มค่า
- ศึกษาประวัติศาสตร์ของอาณาจักรจามปาก่อนมาเที่ยว – เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวของโบราณวัตถุมากขึ้น
- เตรียมกล้องถ่ายรูปให้พร้อม – ที่นี่มีงานศิลปะที่สวยงามและหาชมได้ยาก
- แต่งกายสุภาพ – เนื่องจากเป็นสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา
- แวะเที่ยวสถานที่ใกล้เคียง – เช่น สะพานมังกร หรือแม่น้ำฮาน
วิธีเดินทางไปพิพิธภัณฑ์จาม
จากสนามบินดานัง
🚖 แท็กซี่หรือ Grab – ใช้เวลาประมาณ 10 นาที ค่ารถประมาณ 50,000 – 100,000 ดองเวียดนาม
🏍️ เช่ามอเตอร์ไซค์ – ค่าเช่าราว 150,000 – 200,000 ดองต่อวัน
จากเมืองฮอยอัน
🚌 รถบัสท้องถิ่น – ค่าโดยสารประมาณ 30,000 – 50,000 ดอง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
🚗 รถแท็กซี่หรือ Grab – ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่ารถประมาณ 250,000 – 350,000 ดอง
9. ตลาดฮาน (Han Market) แหล่งช้อปปิ้งสุดคึกคัก อาหารอร่อย และของฝากครบครัน
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ช้อปปิ้งสุดคึกคักในเมืองดานัง (Da Nang) ประเทศเวียดนาม “ตลาดฮาน” (Han Market) คือจุดหมายปลายทางที่คุณไม่ควรพลาด! ตลาดแห่งนี้เป็นตลาดเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยสินค้าหลากหลาย ตั้งแต่อาหารทะเลแห้ง ผลไม้ เสื้อผ้า งานฝีมือ ไปจนถึงของฝากยอดนิยม นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกนิยมแวะมาเดินเล่น หาของกินอร่อย ๆ และซื้อของฝากติดไม้ติดมือก่อนเดินทางกลับ
ทำความรู้จักตลาดฮาน (Han Market)
ตลาดฮาน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองดานัง ใกล้กับแม่น้ำฮาน (Han River) และสะพานมังกร (Dragon Bridge) ตลาดแห่งนี้มีอายุกว่า 100 ปี และเป็นหนึ่งในตลาดที่เก่าแก่และคึกคักที่สุดในดานัง ตลาดฮานมีพื้นที่ขนาดใหญ่ ครอบคลุมอาคาร 2 ชั้น และแบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ อย่างชัดเจน ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาของฝาก อาหารท้องถิ่น หรือเสื้อผ้าราคาถูก ตลาดแห่งนี้มีทุกอย่างที่คุณต้องการ
ทำไมต้องมาเที่ยวตลาดฮาน
- สวรรค์ของนักช้อป ของฝากและสินค้าพื้นเมืองราคาถูก ตลาดฮานเป็นแหล่งรวมสินค้าท้องถิ่นมากมาย ทั้ง เสื้อผ้า ผ้าไหม งานฝีมือ กระเป๋า รองเท้า และของที่ระลึก ที่สามารถต่อรองราคาได้ ราคาที่นี่มักถูกกว่าห้างสรรพสินค้า เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการของฝากในราคาสบายกระเป๋า
- อาหารทะเลสดและแห้ง ห้ามพลาด! หากคุณชื่นชอบอาหารทะเล ตลาดฮานคือที่ที่คุณต้องแวะ ที่นี่มี กุ้งแห้ง ปลาหมึกแห้ง หอยเชลล์อบแห้ง และน้ำพริกทะเล ที่ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพดีและราคาไม่แพง นอกจากนี้ยังมี น้ำปลาฮาน (Han Fish Sauce) ที่เป็นของฝากยอดนิยม
- ของกินอร่อยแบบสตรีทฟู้ดเวียดนาม ภายในตลาดมีร้านอาหารท้องถิ่นที่ขายเมนูเวียดนามแท้ ๆ เช่น 🍜 Mì Quảng – ก๋วยเตี๋ยวเวียดนามเสิร์ฟพร้อมหมู ไก่ หรือกุ้ง 🥖 Bánh Mì – แซนด์วิชเวียดนามที่มีรสชาติเข้มข้น 🥟 Bánh Bao Bánh Vạc (White Rose Dumplings) – เกี๊ยวไส้กุ้งที่เป็นเมนูขึ้นชื่อของดานัง
- สัมผัสวิถีชีวิตของชาวดานังแท้ ๆ ตลาดฮานเป็นศูนย์กลางการค้าขายของคนในท้องถิ่น หากคุณอยากเห็นวิถีชีวิตของชาวเวียดนามแท้ ๆ ที่นี่คือสถานที่ที่เหมาะที่สุด
เคล็ดลับเที่ยวตลาดฮานให้สนุกและคุ้มค่า
- ต่อรองราคาได้! – พ่อค้าแม่ค้าที่นี่เปิดโอกาสให้ต่อรองราคาได้ ดังนั้นอย่าลืมลองเจรจา
- พกเงินสดติดตัว – ร้านค้าหลายแห่งยังไม่รับบัตรเครดิต ควรแลกเงินดองเวียดนามให้พร้อม
- ลองอาหารท้องถิ่นให้ครบ – เพราะเมนูเด็ดของที่นี่อร่อยและราคาไม่แพง
- ซื้อของฝากให้ครบจบในที่เดียว – ตลาดฮานมีสินค้าหลากหลาย ช่วยประหยัดเวลาในการช้อปปิ้ง
- มาแต่เช้าหรือช่วงเย็นเพื่อเลี่ยงความร้อนและคนเยอะ
วิธีเดินทางไปตลาดฮาน
จากสนามบินดานัง
🚖 แท็กซี่หรือ Grab – ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที ค่ารถประมาณ 50,000 – 100,000 ดองเวียดนาม
🏍️ เช่ามอเตอร์ไซค์ – ค่าเช่าประมาณ 150,000 – 200,000 ดองต่อวัน
จากเมืองฮอยอัน
🚌 รถบัสท้องถิ่น – ค่าโดยสารประมาณ 30,000 – 50,000 ดอง ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
🚗 รถแท็กซี่หรือ Grab – ใช้เวลาประมาณ 40 นาที ค่ารถประมาณ 250,000 – 350,000 ดอง
10. แหลมเซินจ่า (Son Tra Peninsula) สำรวจธรรมชาติอันงดงาม พร้อมจุดชมวิวสุดอลังการ
หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวที่รวมทั้งธรรมชาติ ทะเล และวัฒนธรรม “แหลมเซินจ่า” (Son Tra Peninsula) หรือที่เรียกกันว่า “ภูเขาลิง” (Monkey Mountain) คือจุดหมายที่คุณไม่ควรพลาด! ที่นี่เป็นคาบสมุทรที่ตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองดานัง (Da Nang) ประเทศเวียดนาม โดดเด่นด้วยป่าเขียวขจี หาดทรายขาวสะอาด และวิวทะเลจีนใต้ที่สวยงามแบบพาโนรามา
แหลมเซินจ่าไม่เพียงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเวียดนาม แต่ยังเป็นบ้านของลิงพันธุ์หายากอย่าง ลิงพันธุ์กังหันสีแดง (Red-Shanked Douc Langur) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในลิงที่สวยที่สุดในโลก
รู้จักแหลมเซินจ่าให้มากยิ่งขึ้น
แหลมเซินจ่า (Son Tra Peninsula) เป็นคาบสมุทรที่ทอดยาวออกไปในทะเลจีนใต้ อยู่ห่างจากตัวเมืองดานังประมาณ 10 กิโลเมตร และครอบคลุมพื้นที่กว่า 4,400 เฮกตาร์ ที่นี่ได้รับการขนานนามว่าเป็น “ปอดสีเขียวของดานัง” เพราะเต็มไปด้วยป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์และมีระบบนิเวศที่หลากหลาย ด้วยความสูงถึง 693 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้แหลมเซินจ่าเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองดานัง นักท่องเที่ยวสามารถขับรถขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อชมทัศนียภาพอันงดงามของชายฝั่ง พร้อมกับสัมผัสอากาศบริสุทธิ์และธรรมชาติที่เงียบสงบ
ทำไมต้องมาเที่ยวแหลมเซินจ่าสักครั้งในชีวิต
- สัมผัสธรรมชาติที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์
- ชมวิวเมืองดานังจากจุดที่สวยที่สุด
- เยี่ยมชมวัดศักดิ์สิทธิ์ และพระโพธิสัตว์กวนอิมองค์ใหญ่
- พบกับลิงพันธุ์หายาก Red-Shanked Douc Langur
- เที่ยวชายหาดลับ และดื่มด่ำบรรยากาศทะเลที่เงียบสงบ
เคล็ดลับเที่ยวแหลมเซินจ่าให้ประทับใจ
- เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสม – หากไปวัดหลินห์อึ๋งควรแต่งกายสุภาพ
- พกน้ำดื่มและของว่าง – บริเวณนี้มีร้านค้าน้อย ควรเตรียมของใช้ที่จำเป็น
- ขับรถด้วยความระมัดระวัง – ถนนขึ้นเขาค่อนข้างแคบและมีโค้งเยอะ
- พกกล้องถ่ายรูป – เพราะที่นี่มีวิวสวยทุกมุม
- อย่ารบกวนลิงป่า – แม้ว่าลิง Red-Shanked Douc Langur จะดูน่ารัก แต่ควรสังเกตจากระยะไกล
วิธีเดินทางไปแหลมเซินจ่า
จากตัวเมืองดานัง
🚖 แท็กซี่หรือ Grab – ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที ค่ารถประมาณ 150,000 – 250,000 ดองเวียดนาม
🏍 เช่ามอเตอร์ไซค์ – ค่าเช่าประมาณ 150,000 – 200,000 ดองต่อวัน เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการขับรถขึ้นเขาเอง
เส้นทางขึ้นเขาแหลมเซินจ่า
มี 2 เส้นทางหลัก
📍 เส้นทางจากวัดหลินห์อึ๋ง – ทางค่อนข้างลาดชันแต่มีวิวสวย
📍 เส้นทางจากหาดเตียนซา – ขับง่ายกว่าและเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเที่ยวชายหาด
สนใจท่องเที่ยวกับ Daylight World Travel click 🔥
สอบถามรายละเอียดต่างๆเพิ่มเติมหรือติดตามDaylightได้ทุกช่องทาง
Facebook | Daylight World Travel 👉🏼 https://shorturl.asia/hz4d1
Instagram | @daylight.worldtravel👉🏼 https://shorturl.asia/zFCna
Line Official Account | @daylightworld 👉🏼 https://lin.ee/52NXqOq